Management

5 ขั้นตอนจัดการงานอย่างมืออาชีพ

By  | 

1. หาซอฟต์แวร์ช่วยจัดการงาน

Asana: Asana เป็นซอฟต์แวร์การจัดการโครงการที่ได้รับความนิยมซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและใช้งานง่าย โดยมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจัดการงาน การทำงานร่วมกันเป็นทีม และการติดตามโครงการ อาสนะเหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรม

Trello: Trello เป็นอีกหนึ่งซอฟต์แวร์การจัดการโครงการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายซึ่งใช้บอร์ด Kanban เพื่อจัดระเบียบงานและโครงการด้วยสายตา โดยมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจัดการงาน การทำงานร่วมกัน และเวิร์กโฟลว์ที่ปรับแต่งได้ Trello เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางและผู้ทำงานอิสระ

Monday.com: Monday.com เป็นเครื่องมือซอฟต์แวร์การจัดการโครงการอเนกประสงค์ที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น เวิร์กโฟลว์ที่ปรับแต่งได้ การจัดการงาน การทำงานร่วมกันเป็นทีม และระบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรม

Basecamp: Basecamp เป็นซอฟต์แวร์การจัดการโครงการที่มีคุณลักษณะต่างๆ เช่น การจัดการงาน การทำงานร่วมกันเป็นทีม และการติดตามโครงการ เป็นที่รู้จักในด้านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางและนักแปลอิสระ

Wrike: Wrike เป็นซอฟต์แวร์การจัดการโครงการที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจัดการงาน การทำงานร่วมกันเป็นทีม และการติดตามโครงการ เป็นที่รู้จักสำหรับเวิร์กโฟลว์ที่ปรับแต่งได้และเหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรม

Smartsheet: Smartsheet เป็นซอฟต์แวร์การจัดการโครงการที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจัดการงาน การทำงานร่วมกันเป็นทีม และการติดตามโครงการ เป็นที่รู้จักสำหรับเวิร์กโฟลว์ที่ปรับแต่งได้และเหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาดและทุกอุตสาหกรรม

Jira: Jira เป็นซอฟต์แวร์การจัดการโครงการที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับโครงการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมีคุณลักษณะต่างๆ เช่น การจัดการงาน การติดตามปัญหา และการทำงานร่วมกันเป็นทีม Jira เหมาะสำหรับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกขนาด

Microsoft Project: Microsoft Project เป็นซอฟต์แวร์การจัดการโครงการที่มีคุณลักษณะต่างๆ เช่น การจัดการงาน การทำงานร่วมกันเป็นทีม และการติดตามโครงการ ทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ Microsoft Office อื่นๆ ได้ดี และเหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด

ClickUp: ClickUp เป็นซอฟต์แวร์การจัดการโครงการที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น เวิร์กโฟลว์ที่ปรับแต่งได้ การจัดการงาน และการทำงานร่วมกันในทีม เป็นที่รู้จักในด้านอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด

Teamwork: Teamwork เป็นซอฟต์แวร์การจัดการโครงการที่มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจัดการงาน การทำงานร่วมกันเป็นทีม และการติดตามโครงการ เป็นที่รู้จักในด้านเวิร์กโฟลว์ที่ปรับแต่งได้และเหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาด

2. ทำ To-Do List บนแพลต์ฟอร์มที่เลือก

การทำ To Do list เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรามองเห็นภาพรวามการทำงานทั้งหมดของเราในการทำงานในมุมกว้างทั้งในระหว่างวัน หรือในระยะเวลา 1 เดือน ยิ่งเราทำ To Do list ไว้ล่วงหน้านานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาการลืมงานที่จะต้องทำหรือต้องส่ง ทำให้ไม่มีปัญหาการส่งงานหรือทำงานล้าช้าเกิดขึ้น เพราะเหมือนเราได้ตรวจสอบสิ่งที่เราต้องทำในทุกๆวัน To Do list จะเป็นเหมือนการจดการทำงานในสมองเราที่กระจัดกระจาย ไม่รู้จะเริ่มจัดการงานจากตรงไหน สิ่งนี้จะช่วยจัดลำดับความคิดหรือลำดับการทำงานได้เป็นอย่างดี

3. จัดลำดับความสำคัญของแต่ละงาน

เมื่อทำ To Do list งานทั้งหมดออกมาแล้ว การจัดลำดับความสำคัญของงานก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องทำ เพราะงานในแต่ละงานมีลำดับความสำคัญที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละระดับ ตั้งแต่ระดับ เร่งด่วนมากและสำคัญมาก จนไปถึงระดับงานปกติที่ไม่ได้เร่งด่วน ดังนั้นการจัดลำดับความสำคัญของงานจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก ในการทำงานเพราะหากจัดลำดับความสำคัญของงานไม่ได้แล้วก็จะยิ่งทำให้งานออกมาไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นการจัดลำดับความสำคัญของแต่ละงานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

4. ลงมือทำ

หลังจากการจัดลำดับความสำคัญของงานในแต่ละงานเรียบร้อยแล้ว การลงมือทำคือขั้นตอนสำคัญตามขั้นตอนที่เราได้งางแผนไว้ หากเราวางแผนแล้วแต่ไม่ลงมือทำงานก็จะไม่เดินหน้าหรือถ้าเราผลัดวันประกันพรุ่ง งานก็จะไม่สำเร็จ ดังนั้นการลงมือทำคือขั้นตอนที่สำคัญที่จะทำให้งานออกมาตามที่เราวางแผนหรือคิดไว้ เมื่อเราวางแผนทำ To Do list แล้วก็อย่าลืมลงมือทำงานตามที่เราวางแผนไว้ให้ดีแล้วก็มีประสิธิภาพที่สุดเพื่อที่จะได้นำเสนอศักภาพของเราผ่านงานที่เราตั้งใจทำออกมา การลงมือทำและตั้งใจทำออกมาคือสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

5. ปิดงาน

การปิดงานเป็นเหมือนการปิดจบงานที่เราต้องทำที่ต้องส่งมอบหรือส่งงานที่เราทำเสร็จแล้วในส่วนหรือหน้าที่ของเรา การปิดงานหรือส่งมอบงานเป็นส่วนสำคัญอีกหนึ่งส่วนของการทำงานเพราะหากเราทำงานเสร็จแล้วแต่ไม่มีการปิดงานหรือส่งมอบงานก็จะเหมือนเราทำงานยังไม่เสร็จ ดังนั้นการปิดจบงานจึงเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่เราจะต้องไม่ลืมที่จะทำทุกครั้งหลังจากที่เราทำงานสำเร็จในแต่ละงาน และรับFeedbackงานของเราจากการส่งงานที่เราทำเสร็จแล้วเพื่อพัฒนาปรับปรุงงาน พัฒนาในงานต่อไปของเรา